23:10

จังหวัดน่าน

" พระธาตุแช่แห้ง แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์
เสาดินนาน้อย แอ่วดอยภูคา ผ้าลายน้ำไหล มะไฟจีนรสดี
มีเครื่องเงินหลากหลาย เครื่องหวายน่าชม ส้มสีทองเมืองน่าน "

น่านดินแดนแห่งล้านนาตะวันออกซึ่งมีความเก่าแก่รุ่น เดียวกับกรุงสุโขทัย มีเจ้าผู้ครองนครสืบต่อกันมารวมทั้งสิ้น 59 พระองค์ น่านมีชื่อเดิมว่า “นันทบุรี” หรือ “วรนคร” ส้างขึ้นโดยพระยาภูคาในราวพุทธศตวรรษที่ 18 บริเวณที่ราบในเขตตำบลศิลาเพชรหรืออำเภอปัวในปัจจุบัน ต่อมาในสมัยพระยาการเมืองได้รับพระบรมสารรีริธาตุมาจากกรุงสุโขทัย ทรงเลือกดอยภูเพียงแช่แห้งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกับย้ายเมืองมาสร้างใหม่ที่บริเวณเชิงดอย และในราวปี พ.ศ.1911 แม่น้ำน่านได้เปลี่ยนทิศทางไหลจึงได้ย้ายเมืองอีกครั้งมาตั้งที่บ้านห้วยไค้ ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองน่านปัจจุบัน

อาณาเขตและการปกครอง :

ทิศเหนือและทิศตะวันออก จดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ทิศใต้ จดจังหวัดอุตรดิตถ์
ทิศตะวันตก จดจังหวัดแพร่ พะเยา และเชียงราย

น่านมีพื้นที่ 11,472,076 ตารางกิโลเมตร หรือ ประมาณ 7 ล้านไร่เศษ แบ่งการปกครองเป็น 14 อำเภอ และ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอเชียงกลาง อำเภอแม่จริม อำเภอนาน้อย อำเภอปัว อำเภอเวียงสา อำเภอท่าวังผา อำเภอทุ่งช้าง อำเภอบ้านหลวง อำเภอนาหมื่น อำเภอสันติสุข อำเภอบ่อเกลือ อำเภอสองแคว อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และกิ่งอำเภอภูเพียง มีจำนวนประชากร 514,688

ที่เที่ยว

อ.เมือง

วัดพญาวัด


ตั้งอยู่ที่บ้านพญาวัด ตำบลดู่ใต้ ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 101 ก่อนถึงตัวเมืองน่าน มีทางแยกซ้ายมือเข้าทางหลวงหมายเลข 1025 เข้าไปประมาณ 300 เมตร วัดพญาวัดนับเป็นปูชนียสถานที่เก่าแก่และสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน เป็นที่ประดิษฐานเจดีย์จามเทวี หรือ พระธาตุวัดพญาวัด ซึ่งเป็นศิลปะผสมระหว่างล้านนาและล้านช้าง ในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปพระเจ้าสายฝน ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน และจะมาขอฝนเมื่อเกิดความแห้งแล้งฝนไม่ตกตามฤดูกาล

วัดพระธาตุเขาน้อย
ตั้งอยู่ที่ตำบลไชยสถาน อยู่ในเส้นทางเดียวกันกับวัดพญาวัด ตรงหลักกิโลเมตรที่ 2 สันนิษฐานว่ามีอายุใกล้เคียงกับพระธาตุแช่แห้ง จากบนยอดเขาจะมองเห็นตัวเมืองน่านและพระธาตุแช่แห้งได้อย่างชัดเจน

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
อยู่ใกล้กับวัดภูมินทร์ เรียกว่า “หอคำ” เนื่องจากเดิมที่นี่เป็นคุ้มของเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดช สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2446 กรมศิลปากรได้รับมอบอาคารหอคำเพื่อใช้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่าน เมื่อปี พ.ศ.2517 จัดแสดงโบราณวัตถุ ตลอดจนสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศิลปะ โบราณคดี และชาติพันธุ์วิทยาประจำท้องถิ่นไว้อย่างมีระบบและระเบียบสวยงาม ที่นี่ยังเป็นที่เก็บปูชนียวัตถุคู่เมืองน่าน คือ “งาช้างดำ” ตามประวัติกล่าวว่าได้มาจากเมืองเชียงตุงตั้งแต่ครั้งโบราณ เมื่อเจ้ามหาพรหมสุรธาดาเจ้าผู้ครองนครน่านองค์สุดท้ายถึงแก่พิราลัย เจ้านายบุตรหลานจึงมอบให้เป็นสมบัติของแผ่นดินพร้อมกับหอคำ ลักษณะของงาช้างดำนี้เป็นงาปลีเปลือกสีน้ำตาลเข้ม มีความยาว 97 เซนติเมตร วัดโดยรอบ 47 เซนติเมตร หนักประมาณ 18 กิโลกรัม

เปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. ปิดวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท รายละเอียดติดต่อ โทร. (054) 710561

วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร
อยู่ตรงข้ามสำนักงานเทศบาลเมืองน่านเดิมชื่อวัดหลวงกลางเวียง พญาภูเข่ง เป็นผู้ตั้งขึ้น ตามศิลาจารึกหลักที่ 74 ซึ่งถูกค้นพบภายในวัดกล่าวว่า พญาพลเทพฤาชัย เจ้าเมืองน่านได้ปฏิสังขรณ์บูรณะวิหารหลวงเมื่อ พ.ศ. 2091 ในวัดประดิษฐานเจดีย์ช้างค้ำ ซึ่งมีมีรูปช้างโผล่ออกมาครึ่งตัวโดยรอบเจดีย์ เป็นศิลปะสมัยสุโขทัยอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 ส่วนที่กุฏิเจ้าอาวาสประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลา คือ พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี มีส่วนผสมของทองคำ 65% เป็นศิลปะสุโขทัย

วัดภูมินทร์
อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่าน ตามพงศาวดารของเมืองน่านวัดภูมินทร์สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2139 โดยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์เจ้าผู้ครองนครน่านได้สร้างขึ้นหลังจากที่ครอง นครน่านได้ 6 ปี มีปรากฏในคัมภีร์เมืองเหนือว่า เดิมชื่อ“วัดพรหมมินทร์”แต่ตอนหลังชื่อวัดได้เพี้ยนไปจากเดิมเป็นวัด ภูมินทร์ดังกล่าว

เป็นวัดที่มีลักษณะแปลกกว่าวัดอื่นๆคือ พระอุโบสถและวิหารสร้างเป็นอาคารหลังเดียวกัน เป็นทรงจตุรมุข (กรมศิลปากรได้สันนิษฐานว่าเป็นอุโบสถจตุรมุขหลังแรกของประเทศไทย) นาคสะดุ้งขนาดใหญ่แห่แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัว ตรงใจกลางพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ ประทับนั่งบนฐานชุกชี หันพระพักตร์ออกด้านประตูทั้งสี่ทิศ เบื้องพระปฤษฎางค์ชนกัน

วัดภูมินทร์ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ.2410 โดยพระเจ้าอนันตวรฤทธิเดชเจ้าผู้ครองนครน่าน โปรดให้ซ่อมแซมเป็นครั้งใหญ่แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2418 กรมศิลปากรสันนิษฐานว่าภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวัดนี้คง จะวาดในสมัยที่ซ่อมแซมครั้งใหญ่นี้ สำหรับช่างผู้วาดนั้นไม่ปรากฏประวัติ ทราบแต่ว่าเป็นศิลปกรรมแบบชาวไทยลื้อ

จิตรกรรมฝาผนังที่นี่เล่าเรื่องชาดก ตำนานพื้นบ้าน และยังบ่งบอกความเป็นอยู่ของชาวน่านในอดีต เช่น การแต่งกายของสตรีที่มักนุ่งซิ่นลายน้ำไหล การทอผ้าด้วยกี่ทอมือ การติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ นอกจากนี้สิ่งที่น่าชมอีกอย่างหนึ่ง คือ บานประตูรอบพระอุโบสถที่เป็นไม้สักทองขนาดใหญ่หนา 4 นิ้ว แกะสลักลึก 3 ชั้น เป็นลวดลายเครือเถาที่มีทั้งดอกและผลระย้าย้อย รวมทั้งสัตว์นานาชนิด

วัดสวนตาล
อยู่ที่ถนนมหายศ สร้างขึ้นโดยพระนางปทุมมาวดี เมื่อ พ.ศ.1770 ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปที่สำคัญคือ พระเจ้าทองทิพย์ ซึ่งพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1993 เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 10 ฟุต สูง 14 ฟุต 4 นิ้ว มีงานนมัสการและสรงน้ำเป็นประจำทุกปี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งจะมีการเฉลิมฉลองทั้งกลางวันและกลางคืน

พระธาตุแช่แห้ง
ตั้งอยู่ที่ตำบลม่วงตึ๊ด จากตัวเมืองข้ามสะพานแม่น้ำน่าน ไปตามเส้นทางสายน่าน-แม่จริม หรือทางหลวงหมายเลข 1168 ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของจังหวัดน่าน มีอายุกว่า 600 ปี ประดิษฐานอยู่ที่วัดแช่แห้ง ตามพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่าพญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระธาตุ ที่ได้มาจากเมืองสุโขทัยระหว่างปี พ.ศ. 1897-1901 องค์เจดีย์บุด้วยทองเหลืองหรือทองจังโกลงรักปิดทองตลอดทั้งองค์ มีงานนมัสการพระบรมธาตุเป็นประจำทุกปีระหว่างวันขึ้น 11 ค่ำ ถึง 15 ค่ำ เดือน 6 ทางเหนือ โดยนับทางจันทรคติซึ่งจะอยู่ในราวปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือประมาณเดือนมีนาคม ทุกปี

วนอุทยานถ้ำผาตูบ
อยู่ที่ตำบลผาสิงห์ ห่างจากตัวจังหวัด 12 กิโลเมตร บนเส้นทางหลวงหมายเลข 1080 น่าน-ปัว-ทุ่งช้าง ตรงหลักกิโลเมตรที่ 9-10 การเดินทางมีความสะดวกทุกฤดูกาล มีถ้ำสำคัญที่ควรชมอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำพระและถ้ำบ่อน้ำทิพย์ มีหินงอก หินย้อย ชะง่อนผา และพันธุ์ไม้ต่างๆ จัดเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

อ.อื่นๆ

สถานที่น่าสนใจอำเภอนาน้อย

ผาชู้ หรือ ผาเชิดชู
อยู่ห่างจากตัวอำเภอนาน้อย 16 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายนาน้อย-ปางไฮ เส้นทางหลวงหมายเลข 1083 ผาชู้นี้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่านมีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันมีทิวทัศน์ สวยงาม ตามประวัติเล่าว่ามีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเกิดรักกัน โดยที่ครอบครัวของฝ่ายหญิงมีฐานะดีกว่าฝ่ายชายจึงถูกกีดกันจากญาติของ ผู้ใหญ่ ด้วยความรักกัน ฝ่ายหญิงจึงมา ณ ที่แห่งนี้แล้วได้กระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย เมื่อฝ่ายชายทราบเรื่องจึงตามมาและได้พบศพของหญิงสาว จึงเสียใจและกระโดดหน้าผาตายตามกัน หน้าผาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ผาชู้” นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ที่นี่มีบ้านพักรับรองแต่ต้องเตรียมอาหารไปเอง รายละเอียดติดต่อ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตู้ปณ.14 อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150

เสาดินนาน้อย (ฮ่อมจ๊อม) และคอกเสือ
อยู่ที่ตำบลเชียงของ ห่างจากตัวเมืองน่าน 60 กิโลเมตร จากอำเภอนาน้อยมีทางแยกไปตามเส้นทางหมายเลข 1083 ประมาณ 10 กิโลเมตร ฮ่อมจ๊อม คือ เป็นเนินดินซึ่งถูกกัดเซาะจนสึกกร่อน เป็นการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาอย่างหนึ่ง มีลักษณะคล้ายกับ “แพะเมืองผี” ที่จังหวัดแพร่

สถานที่น่าสนใจอำเภอนาหมื่น

บ้านปากนาย
ห่างจากตัวจังหวัด 96 กิโลเมตร ใช้เส้นทางน่าน-เวียงสา-นาน้อย จากอำเภอนาน้อย จะมีทางแยกไปถึงอำเภอนาหมื่นราว 20 กิโลเมตร จากนั้นจะเป็นทางลูกรังคดเคี้ยวไปตามไหล่เขาอีกประมาณ 22 กิโลเมตร จึงถึงบ้านปากนาย ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงริมทะเลสาบเหนือเขื่อนสิริกิติ์ ที่มีทิวทัศน์สวยงามโอบบริเวณด้วยทิวเขาเขียวขจีโดยรอบ มีเรือนแพซึ่งเปิดเป็นร้านอาหาร และบางแห่งทำเป็นห้องพักไว้บริการนักท่องเที่ยว จากบ้านปากนายสามารถเช่าเรือล่องไปตามลำน้ำน่านสู่อ่างเก็บน้ำสิริกิติ์ มีทิวทัศน์เป็นป่าเขาสวยงาม เกาะแก่ง เรือนแพ ชาวประมง มีปลาน้ำจืด เช่น ปลาบู่ ปลาเทโพ และปลาสวาย เป็นต้น

สถานที่น่าสนใจอำเภอบ้านหลวง

ดอยผาจิ
การเดินทางจากน่านใช้ทางหลวงหมายเลข 1091 เป็นระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร เมื่อถึงอำเภอบ้านหลวงให้ใช้เส้นทางสาย 1172 บ้านพี้เหนือสู่ดอยผาจิ ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ดอยผาจิ เป็นดอยที่มีความสวยงาม มีธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ทั้งน้ำตก ต้นไม้นานาพันธุ์ เป็นเขตพื้นที่ที่เคยเป็นที่ตั้งฐานกำลังของฝ่าย ผกค. ปัจจุบันยังมีอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ท่อประปา อยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง และเย้า เรียงรายอยู่

สถานที่น่าสนใจอำเภอท่าวังผา

หมู่บ้านไทยลื้อหนองบัว
อยู่ที่บ้านหนองบัว ตำบลป่าคา จากตัวเมืองน่านใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1080 เป็นระยะทาง 41 กิโลเมตร ก่อนถึงอำเภอท่าวังผามีทางแยกซ้ายไปอีก 3 กิโลเมตร หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่มีฝีมือในการทอผ้าพื้นเมืองประจำเผ่าที่สวย งาม เรียกว่า “ผ้าลายน้ำไหล” ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดน่าน นับเป็นหัตถกรรมที่ตกทอดมาหลายยุคหลายสมัย ตามใต้ถุนบ้านที่ยกพื้นสูงจะมีเครื่องทอผ้าสำหรับไว้ใช้เอง ส่วนที่เหลือจะนำออกจำหน่ายเป็นสินค้าพื้นเมือง เช่น ผ้านุ่ง ผ้าพันคอ กระโปรง เสื้อ เป็นต้น

วัดหนองบัว
ตั้งอยู่ในหมู่บ้านหนองบัว เป็นวัดที่สร้างด้วยฝีมือช่างไทยลื้อ ซึ่งได้โยกย้ายถิ่นฐานมาจากแคว้นสิบสองปันนาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล ภายในวิหารวัดหนองบัวมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม มีเอกลักษณ์ซึ่งแตกต่างไปจากวัดอื่น ๆ ตามประวัติกล่าวว่าภาพเหล่านี้เขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือชาวไทยลื้อเมืองน่าน นับว่ามีคุณค่าทางศิลปะและความสมบูรณ์ของภาพใกล้เคียงกับภาพจิตรกรรมฝาผนัง ของวัดภูมินทร์ในเมืองน่าน

สถานที่น่าสนใจอำเภอปัว

หมู่บ้านพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาป่ากลาง
ตั้งอยู่ที่ตำบลศิลา ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 69 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าแม้ว เย้า และถิ่น ซึ่งมีผลมาจากการกวาดล้างผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในจังหวัดน่านของทาง ราชการ เมื่อปี พ.ศ.2511 การจัดสร้างจะแยกกันอยู่ตามลักษณะเผ่า มีการผลิตงานหัตถกรรมที่สวยงาม

น้ำตกศิลาเพชร
ตั้งอยู่ที่บ้านป่าตอง ตำบลศิลาเพชร ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 56 กิโลเมตร บนเส้นทางหลวงหมายเลข 1080 สายน่าน-ปัว ก่อนถึงอำเภอปัว ตรงหลักกิโลเมตรที่ 41-42 มีทางแยกขวามือเข้าทางหลวงหมายเลข 1170 ไปประมาณ 14 กิโลเมตร น้ำตกสายนี้จะตกลงมาจากหน้าผาหลายชั้นลดหลั่นกันไป

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
อยู่ห่างจากจังหวัดน่าน ประมาณ 85 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1080 สายน่าน-ปัว ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร จากนั้นใช้เส้นทางสายปัว-บ่อเกลือ อีกประมาณ 25 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ เป็นแหล่งกำหนิดของห้วยน้ำลำธารอันหลากหลายที่นำไปสู่ต้นกำเนิดแม่น้ำน่าน แม่น้ำสายหลักของจังหวัดน่านที่มีความสำคัญทั้งทางนิเวศวิทยา และวิถีชีวิตของชาวน่าน อุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีพื้นที่ประมาณ 1,680 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,050,000 ไร่

สิ่งที่น่าสนใจในอุทยานฯ คือ ต้นชมพูภูคา ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่หายากที่สุดพันธุ์หนึ่ง มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า “ไบร์ทชไนเดอร์ซีเนนซีส” คาดว่าได้สูญพันธุ์ไปแล้ว จนกระทั่งมีการค้นพบอีกครั้งในป่าดอยภูคาแห่งนี้ โดย ดร.ธวัชชัย สันติสุข ขณะที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพฤกษศาสตร์ กองบำรุง กรมป่าไม้ ลักษณะของดอกชมพูภูคา กลีบดอกด้านนอกมีสีชมพูจางขาว และกลีบดอกด้านในมีสีชมพูลายเส้นสีม่วง ชูช่อเป็นพวงใหญ่ จึงได้มีการตั้งชื่อตามสีของดอก และสถานที่ค้นพบว่าดอก “ชมพูภูคา” นับแต่นั้นมา

นอกจากนี้บนดอยภูคายังป่าปาล์มดึกดำบรรพ์ ถ้ำ น้ำตก และจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามอีกหลายแห่ง อทยานฯมีบ้านพักและสถานที่ตั้งเต็นท์ไว้บริการ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. (01) 602-9844 ตู้ปณ.8 ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน 55120

สถานที่น่าสนใจอำเภอทุ่งช้าง

อนุสาวรีย์วีรกรรมทุ่งช้าง
เป็นอนุสาวรีย์พลเรือน ตำรวจ ทหาร ผู้พลีชีพเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยในเขตจังหวัดน่านจากคอมมิวนิสต์ ใช้เวลาในการก่อสร้าง 3 ปี ตั้งอยู่ริมทางหลวงสายน่าน-ทุ่งช้าง (หมายเลข 1080) ตรงหลักกิโลเมตรที่ 84 บนเนินเขาเตี้ยๆ ท่ามกลางหุบเขาน้อยใหญ่ บริเวณใกล้เคียงจัดเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีสระน้ำและดอกไม้นานาพันธุ์ อนุสาวรีย์วีรกรรมแห่งนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิด เมื่อวันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519

สถานที่น่าสนใจอำเภอบ่อเกลือ

บ่อเกลือสินเธาว์
อยู่ห่างจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 80 กิโลเมตร ชาวอำเภอบ่อเกลือนอกจากจะมีอาชีพทำนาทำไร่แล้วยังมีอาชีพทำเกลือสินเธาว์อีก ด้วย โดยมีแหล่งเกลือสินเธาว์อยู่บนภูเขา มีวิธีการทำคือ จะนำน้ำจากบ่อมาต้มในกะทะใบบัวใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง บ่อเกลือนี้มีมาแต่โบราณ และจะนำไปจำหน่ายยังกรุงสุโขทัย เชียงใหม่ เชียงตุง หลวงพระบาง รวมถึงสิบสองปันนา จีนตอนใต้

สถานที่น่าสนใจอำเภอแม่จริม

ล่องแก่งลำน้ำว้า
ที่บ้านน้ำปุ๊ ตำบลน้ำพางห่างจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 59 กิโลเมตร น้ำว้าเป็นลำน้ำขนาดใหญ่ น้ำใสไหลตลอดปีมีทัศนียภาพสวยงาม สองฝั่งเขียวชอุ่มไปด้วยป่าไม้ โขดหิน เกาะแก่งที่สวยงามและแก่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือแก่งหลวง มีหาดทรายขาวเหมาะสำหรับตั้งแคมป์มีบริการนั่งช้างชมธรรมชาติ

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

http://61.19.236.136/tourrist/images/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%84%E0%B8%B21.jpg อุทยานแห่งชาติดอยภูคา http://hilight.kapook.com/imghilight1/200612271249231_450.jpg

อุทยาน แห่งชาติดอยภูคา มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอปัว อำเภอเชียงกลาง อำเภอทุ่งช้าง อำเภอแม่จริม อำเภอวังท่าผา และกิ่งอำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำลำธารชั้น 1 เอ และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตกภูฟ้า น้ำตกแม่จริม ถ้ำผาฆ้อง ธารน้ำลอด พระลานหิน และป่าปาล์มดึกดำบรรพ์ เป็นต้น

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 1,263.84 ตารางกิโลเมตร หรือ 793,650 ไร่

การเดินทาง :

มีถนนลาดยาง เส้นทางอำเภอเมืองน่าน-อำเภอปัว-อำเภอทุ่งช้าง และมีถนนตามโครงการพระราชดำริเป็นวงแหวนรอบแนวเขตอำเภอปัว อำเภอทุ่งช้าง ระยะทางจากอำเภอเมืองถึงดอยภูคาประมาณ 60 กิโลเมตร

สิ่งอำนวยความสะดวก :

ติดต่อ สอบถามรายละเอียดได้ที่งานบริการบ้านพัก กรมป่าไม้ หรือที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ตู้ ปณ.12 อำเภอปัว จังหวัดน่าน 55120 หรือโทร. 01-4726713

ลักษณะภูมิประเทศ :

สภาพภูมิประเทศ ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มียอดดอยภูคาเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดน่าน โดยสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,980 เมตร โดยทั่วไปเป็นภูเขาหินและหินปนทราย พื้นที่ป่าแห่งนี้เป็นป่าต้นน้ำลำธารชั้น 1 เอ อันเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำน่าน และแม่น้ำลำธารหลายสาย

ลักษณะภูมิอากาศ :

อุทยาน แห่งชาติดอยภูคา มีสภาพภูมิอากาศแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาล คือ

ฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม มีฝนตกชุก
ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ โดยในช่วงเดือนธันวาคมและมกราคม จะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 5 องศาเซลเซียส
ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 30 องศาเซลเซียส

พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า :

สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยป่าดงดิบ ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ทุ่งหญ้า ป่าปาล์มดงดิบ มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ ก่อ ยาง ตะเคียน มะค่าโมง จำปีป่า ประดู่ แดง สัก เต็ง รัง เหียง พลวง พะยอม และปาล์มขนาดใหญ่ ส่วนไม้พื้นล่างได้แก่ หวาย ผักกูด ไม้ไผ่ หญ้าเพ็ก เป็นต้น

สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่มีอย่างชุกชุม ได้แก่ ช้างป่า วัวแดง กระทิง กวาง เก้ง หมี หมูป่า เลียงผา ลิง ชะนี ค่าง อีเห็น กระจง นาค และนกชนิดต่างๆ เช่น นกกองกอด เป็นต้น

จุดเด่นที่น่าสนใจ :

ภูเขาและทิวทัศน์
เทือกเขาดอยภูคาเป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน มีทิวทัศน์ที่สวยงามตามธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ โดยเฉพาะยอดดอยภูคา มีเมฆหมอกปกคลุมตลอดฤดูฝนและฤดูหนาว จึงมีทิวทัศน์สวยงามมาก

น้ำตก
มีน้ำตกกระจัดกระจายมากมายทั่วพื้นที่ ที่มีความสวยงามได้แก่ น้ำตกภูฟ้า น้ำตกผาขี้นก น้ำตกแม่จริม น้ำตกต้นตอง น้ำตกตาดหลวง น้ำตกห้วยโกร๋น

ถ้ำ
มีถ้ำขนาดใหญ่สวยงามอยู่หลายแห่ง ถ้ำที่มีขนาดใหญ่และมีความสวยงามมาก คือ ถ้ำผาฆ้อง อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอปัว ถ้ำหลวง ถ้ำผาแดง ถ้ำผาแง่ม ถ้ำผาเก้า ถ้ำผาผึ้ง ถ้ำพง ถ้ำพระ เป็นต้น

ธารน้ำลอด
ชาวบ้านเรียกว่า"น้ำออกรู" เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มหัศจรรย์มาก ภายในถ้ำใต้ภูเขาจะมีลำธารน้ำที่ผุดขึ้นมาจากใต้ภูเขาแล้วไหลลอดปากถ้ำออกไป มีเสียงดังสนั่นเหมือนเสียงน้ำตก และผนังถ้ำจะมีรูเข้าไปลักษณะเป็นห้วยลำธารมีน้ำไหลออกมา ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร

พระลานหินและหน้าผา
เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สวยงามมากอยู่ที่ดอยภูแว ไม่มีพันธุ์ไม้ขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ และยังประกอบด้วยหน้าผาหลายแห่ง เช่น ผาแง่ม ผาเก้า ผาผึ้ง ผาขี้นก เป็นต้น

ป่าปาล์มดึกดำบรรพ์
เป็นป่าปาล์มขนาดใหญ่ของไทย มีพื้นที่รอบๆดอยภูแวไม่ต่ำกว่า 3,000 ไร่ ลักษณะเป็นป่าปาล์มธรรมชาติดงดิบ แทบจะไม่มีพันธุ์ไม้อื่นใดขึ้นปะปน ชาวเขาเผ่าแม้วเรียกปาล์มนี้ว่า "ต้นจึ๊ก" ลำต้นใส้ในที่อ่อนใช้ประกอบอาหารรับประทานแทนข้าวได้

อุทยานแห่งชาติศรีน่าน

http://61.19.236.136/tourrist/images/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%992.jpg http://www.muangthai.com/wordpress/wp-content/uploads/2007/06/npc78.jpg http://www.ezytrip.com/Thailand/North/Nan/SiNan-NationalPark/SiNan-NationalPark_0001.jpg

อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งขวาของแม่น้ำน่านตอนใต้ ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยงวง ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล 3 อำเภอ คือ ตำบลส้าน และตำบลน้ำมาบ อำเภอเวียงสา ตำบลศรีษะเกษ ตำบลเชียงของ และตำบลสถาน อำเภอนาน้อย ตำบลบ่อแก้ว และตำบลนาทะนุง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน

อุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีพื้นที่ประมาณ 934 ตารางกิโลเมตร หรือ 583,750 ไร่

การเดินทาง :

จากกรุงเทพฯ ถึงแพร่ ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ไปจนถึงอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร เลี้ยวขวาไปตามถนนแก้วฟ้า ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1026 จากอำเภอเวียงสา ไปอำเภอนาน้อย ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนสายนาน้อย-ปางไฮ ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1083 ไปอีกประมาณ 22 กิโลเมตร จนถึงผาชู้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติศรีน่าน

สิ่งอำนวยความสะดวก :

สอบถามรายละเอียด ได้ที่ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตู้ ปณ.14 อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150

ลักษณะภูมิประเทศ :

สภาพภูมิประเทศ เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน วางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ ขนานกันทางด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก บริเวณที่ราบลุ่มตรงกลางจะมีลักษณะเป็นภูเขาน้อยใหญ่ลดหลั่นกันลงไป ตอนกลางของพื้นที่มีแม่น้ำน่านทอดตัวไหลผ่านจากเหนือสุด-ใต้สุด ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร แบ่งอุทยานออกเป็นซีกตะวันตกและซีกตะวันออก ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ ดอยคำ สูง 1,229 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง นอกจากนี้ยังมีดอยจำลึก ดอยไหว ดอยสุไข ดอยจำปูหลวงแก้ว ดอยหวดและดอยภูหลักหมื่น เป็นต้น

ลักษณะภูมิอากาศ :

สภาพอากาศ ค่อนข้างเย็นในช่วงฤดูหนาว และจะมีเมฆมากในช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนกรกฎาคม-กันยายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 24 องศาเซลเซียส

พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า :

เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนมีความสูงต่างกันหลายระดับ จึงทำให้มีสภาพป่าหลายชนิด เช่น ป่าดิบเขา พบตามแนวสันเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตร พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ไม้ก่อต่างๆ ตะเคียน กระบาก ไม้พื้นล่างประกอบด้วยพืชในตระกูลปาล์ม ขิง ข่า และเฟิร์น

ป่าดิบแล้ง พบตามหุบเขาและริมห้วย ในระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 500-1,000 เมตร พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ยาง กระบก แดง เหียง ส่วนป่าสนพบเป็นหย่อมๆตามแนวสันเขาที่มีความสูงระหว่าง 500-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล

ป่าเบญจพรรณ พบขึ้นตามที่ราบเชิงเขา ริมห้วยและหุบเขา กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ไม้สัก ชิงชัน ประดู่ ตะเคียนทอง มะค่าโมง ฯลฯ

ป่าเต็งรัง พบขึ้นอยู่ตามไหล่เขา เชิงเขา และพื้นที่ค่อนข้างราบ พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ เต็ง รัง เหียง เป็นต้น

สัตว์ป่า ที่พบมี ช้าง วัวแดง กระทิง ซึ่งสัตว์ทั้ง 3 ชนิดนี้จะอพยพข้ามไปมาในเขตติดต่อระหว่างประเทศไทยและลาว นอกจากนี้ยังมีหมี เลียงผา กวาง เก้ง เสือ หมูป่า หมาป่า กระจง อีเห็น ไก่ฟ้า ตะกวด เต่า นกยูง นกนานาชนิดและงูชนิดต่างๆ

จุดเด่นที่น่าสนใจ :

เสาดินและคอกเสือ
เกิดจากการพังทลายของดินเป็นพื้นที่กว้างประมาณ 20 ไร่ กระจัดกระจายไปตามสภาพพื้นที่ โดยมีป่าเต็งรังขึ้นอยู่ประปราย ลักษณะของเสาดินคล้ายแกรนด์แคนยอน เหมือนกับแพะเมืองผีของจังหวัดแพร่ เสาดินและคอกเสือตั้งอยู่ที่ตำบลเชียงของ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ไปตามเส้นทาง เวียงสา-นาน้อย ประมาณ 5 กิโลเมตร

ปากนาย
เกิดจากสภาพป่าที่ถูกน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ท่วมถึง มีขนาดกว้างใหญ่ที่สุดในจังหวัดน่าน มีหมู่บ้านชาวประมงน้ำจืดอาศัยอยู่ สภาพทิวทัศน์สวยงามมากแห่งหนึ่ง ระยะทางเข้าจากกิ่งอำเภอนาหมื่นไปประมาณ 27 กิโลเมตร

แก่งหลวง
เกิดจากแนวหินน้อยใหญ่ที่กระจัดกระจายอยู่ในแม่น้ำน่าน รวมทั้งโขดหินและหน้าผา ยามหน้าน้ำจะมีเสียงน้ำกระทบโขดหินดังกึกก้อง ยามหน้าแล้งจะมองเห็นแนวโขดหินอย่างสวยงาม การเดินทางให้ไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1083(นาน้อย-ปางไฮ) จากปากทางถึงแก่งหลวงประมาณ 35 กิโลเมตร

จุดชมวิวผาชู้
เป็นจุดที่เป็นหน้าผาใหญ่โดดเด่น สามารถมองเห็นทิวทัศน์และแม่น้ำน่านที่ทอดตัวคดเคี้ยวไปตามที่ราบลุ่มอย่าง งดงาม การเดินทางให้ไปตามเส้นทางเดียวกับทางไปแก่งหลวง จากปากทางเข้าถึงแก่งหลวงประมาณ 21 กิโลเมตร

ทิวทัศน์ฝั่งแม่น้ำน่าน
สภาพของสองฝั่งแม่น้ำมีป่าไม้ที่สวยงามตลอดจนโขดหินและหน้าผาต่างๆ เหมาะแก่การล่องแพหรือนั่งเรือชมธรรมชาติ

อุทยานแห่งชาติแม่จริม

http://www.cm77.com/cmb/home/attachment/200906/20/141_1245476799J4L6.jpg http://61.19.236.136/tourrist/images/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A13.jpg http://61.19.236.136/tourrist/images/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A12.jpg

อุทยานแห่งชาติแม่จริม ตั้งอยู่ในจังหวัดน่าน มีอาณาเขตติดต่อกับ
ทิศเหนือ จด ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1168 ตำบล น้ำพาง อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน
ทิศใต้ จด ลำน้ำปี้ ตำบล น้ำมวบ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน
ทิศตะวันออก จด สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตำบล น้ำพาง อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน
ทิศตะวันตก จด ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1243 ตำบล ไหล่น่าน อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน

การเดินทาง :

เส้นทางคมนาคม ระยะทางจากจังหวัด น่าน ถึง อำเภอแม่จริม 38.00 กิโลเมตร ระยะทางจาก อำเภอ แม่จริม ถึงสำนักงานอุทยานแห่งชาติแม่จริม 19.00 กิโลเมตร สภาพถนน เป็นถนนลาดยาง 53.00 กิโลเมตร และถนนลูกรัง 4.00 กิโลเมตร

สิ่งอำนวยความสะดวก :

อุทยานแห่งชาติแม่จริม มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวจำนวน 2 หลัง สามารถพักได้ทั้งหมด 20 คน มีเต้นท์พักให้เช่า จำนวน 5 หลัง สามารถพักได้ทั้งหมด 10 คน นอกจากนี้ยังมีสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้กางเต้นท์ อีก 1 แห่ง สามารถพักได้ทั้งหมด จำนวน 50 คน หากท่านสนใจสามารถติดต่อได้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่จริม สำนักงานป่าไม้จังหวัดน่าน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน 55000 โทร. (054) 710136 , 772636 หรือโทรสาร (054) 772636 หรือติดต่อสอบถามได้ที่งานบริการบ้านพัก ฝ่ายนันทนาการและสื่อความหมาย ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ กรุงเทพฯ โทร. 5797223 , 5795734 หรือ โทร. 5614292-4 ต่อ 724 , 725

ลักษณะภูมิประเทศ :

เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ความสูงจากระดับน้ำทะเล ต่ำสุด 300 เมตร และสูงสุด 1652 เมตร พื้นที่มีความลาดชันสูง แหล่งน้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคคือ ลำน้ำว้า

พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า :

สัตว์ป่าที่เป็นจุดเด่นของอุทยานแห่งชาติแม่จริม คือ เลียงผา เสือ และนกยูง ส่วนสัตว์ที่พบเห็นได้มาก ได้แก่ เลียงผา หมี และเก้ง

จุดเด่นที่น่าสนใจ :

ลักษณะเด่นของพื้นที่ทางธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติ แม่จริม มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และลำน้ำว้าที่สามารถล่องแก่งได้อย่างสนุกสนาน ทั้งยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่น่าศึกษา และความงดงามทางวัฒนธรรมในท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถประกอบกิจกรรมการท่องเที่ยวได้หลายอย่างด้วยกัน อาทิ ปิคนิค ขับรถชมทัศนียภาพ เดินป่าศึกษาธรรมชาติทั่วไป ตั้งแคมป์พักแรม ขี่จักรยานตามเส้นทางธรรมชาติ ล่องเรือหรือแพ พักผ่อนในบรรยากาศที่สงบ สามารถว่ายน้ำ อาบแดดและเที่ยวชมน้ำตกได้อีกด้วย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมการดูนก อุทยานแห่งชาติแม่จริมมีนกนานาพันธุ์อาศัยอยู่มากมายหลายชนิด และที่นี่ยังสามารถศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับหลักฐานทางโบราณคดี รวมทั้งวัฒนธรรมของชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติแม่จริม สามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ท่านสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวช่วงใดก็ได้ แต่เฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน จะเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวที่สุด

อุทยานแห่งชาตินันทบุรี

http://www.yimsiam.com/cgi-bin/data/ystravel/pic/0002383.jpg อุทยานแห่งชาตินันทบุรี น่าน http://kroosit.net46.net/picture/travel/songkwae/PIC_1007.JPG

อุทยานแห่งชาตินันทบุรี ตั้งอยู่ในจังหวัดน่าน มีเนื้อที่ทั้งหมด 740,900 ไร่ หรือ 1,185 ตารางกิโลเมตร

มีอาณาเขตติดต่อกับ
ทิศเหนือ จด เขตอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน อำเภอ สองแคว จังหวัดน่าน ตำบล ปง อำเภอ ปง จังหวัดพะเยา
ทิศใต้ ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำน่านฝั่งขวา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน
ทิศตะวันออก จด ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1080 (น่าน - ทุ่งช้าง) ตำบล ผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ตำบล บ่อ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
ทิศตะวันตก จด เขตอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยผาช้าง ตำบล เชียงม่วน อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา

การเดินทาง :

เส้นทางคมนาคม ระยะทางจากจังหวัดน่าน ถึงอำเภอที่ตั้งหน่วยงานท่าวังผา 42.00 กิโลเมตร ระยะทางจากอำเภอท่าวังผา ถึงสำนักงานนันทบุรี 27 .00 กิโลเมตร สภาพถนนเป็นถนนลาดยาง 69.00 กิโลเมตร และถนนลูกรัง 2.00 กิโลเมตร

สิ่งอำนวยความสะดวก :

อุทยานแห่งชาตินันทบุรีมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีเจ้าหน้าที่ประจำในการติดต่อสอบถามให้รายละเอียดเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทางอุทยานแห่งชาตินันทบุรีมีเต้นท์ให้นักท่องเที่ยวเช่าจำนวน 10 หลัง พักได้ 20 คน และมีสถานที่กางเต้นท์อีก 2 แห่ง สามารถพักได้ถึง 100 คน สนใจติดต่อได้ที่ทำการอุทยานแห่งชาตินันทบุรี ตู้ปณ.3 อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน 55140 โทร. (054) 772636 โทรสาร. (054) 772636 หรือติดต่อสอบถามได้ที่งานบริการบ้านพัก ฝ่ายนันทนาการและสื่อความหมาย ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ กรุงเทพฯ โทร. 5797223 , 5795734 หรือ โทร. 5614292-4 ต่อ 724 , 725

ลักษณะภูมิประเทศ :

อุทยานแห่งชาตินันทบุรี มีลักษณะภูมิประเทศเป็นลูกคลื่นลอนลาดจนถึง Slope Complex ภูเขาสูงชันสลับซับซ้อนวางตัวแนวเหนือใต้ ของด้านตะวันตกของจังหวัดน่านจนไปจด สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สูงจากระดับน้ำทะเล ต่ำสุด 300 เมตร และสูงสุด 1,674 เมตร พื้นที่มีสภาพความลาดชันตั้งแต่ 30% ขึ้นไป มีแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคคือ ระบบน้ำซับประปาภูเขา และอ่างเก็บน้ำ

พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า :

อุทยานแห่งชาตินันทบุรี มีนกนานาพันธุ์อยู่ถึง 152 ชนิด สัตว์ที่นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นได้เป็นจำนวนมาก ได้แก่ เลียงผา นกยูง เสือโคร่ง ไก่ฟ้าหลังขาว นกแว่นสีเทา นกปีกแพรสีม่วง และนกจู๋เต้นเขาปูน ส่วนสัตว์ที่นับว่าเป็นจุดเด่นของอุทยาน ได้แก่ หมูป่า ไก่ป่า อ้น ตุ่น กระต่ายป่า เก้ง อีเห็น พังพอน และ เม่น

จุดเด่นที่น่าสนใจ :

อุทยานแห่งชาตินันทบุรี มีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงวางตัวแนวเหนือใต้อากาศเย็นสบายตลอดปี มีน้ำตก บ่อน้ำพุร้อน ถ้ำ เพิงผา และจุดชมวิวของทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้น - ตก ทางด้านประวัติศาสตร์ เคยเป็รสถานที่ต่อสู้บนความขัดแย้งทางการเมืองที่เรียกว่า "ยุทธภูมิที่ดอยผาจิ" นอกจากนี้ยังเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าตองเหลือง วัฒนธรรมชาวเขาเผ่าเย้า และชาวพื้นเมืองไทยลื้อ ซึ่งมีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของเมืองน่านดั้งเดิม เช่น การแต่งกาย การทอผ้า เป็นต้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวชมอุทยานได้ตลอดทั้งปี โดยมีกิจกรรมมากมายให้ท่านเลือก อาทิ เที่ยวชมน้ำตก ส่องสัตว์ ปีนเขา ไต่เขา ศึกษาธรรมชาติ หรือเที่ยวถ้ำ เป็นต้น

อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน
http://www.nan2day.com/topnews/post_photo/caveinnans.jpg http://www.hotelsguidethailand.com/images/attraction/ta0150/0150_1.jpg http://board.trekkingthai.com/board/upload/photo/2007-12/1946200_WyxK09GXKW0805.jpg

อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ตั้งอยู่ในจังหวัดน่านและจังหวัดพะเยา มีเนื้อที่โดยประมาณ 280,000 ไร่ หรือ 448 ตารางกิโลเมตร

มีอาณาเขตติดต่อกับ
ทิศเหนือ จด ประเทศลาว ตำบลห้วยสะแตง อำเภอเมืองเงิน หลวงพระบาง
ทิศใต้ จด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาช้าง ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา
ทิศตะวันออก จด ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำยาว และป่าน้ำสวด ตำบลชนแดน อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน
ทิศตะวันตก จด ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำเปื๋อย น้ำหย่วนและน้ำลาว อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

การเดินทาง :

เส้นทางคมนาคม ระยะทางจากจังหวัดน่าน ถึงอำเภอสองแคว ประมาณ 75 กิโลเมตร และระยะทางจากอำเภอสองแคว ถึงสำนักงานถ้ำสะเกิน 38 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางตลอดเส้นทาง

สิ่งอำนวยความสะดวก :

อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีเจ้าหน้าที่ประจำในการติดต่อสอบถามให้รายละเอียดเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทางอุทยานฯ มีบ้านพักจำนวน 1 หลัง สามารถพักได้ 30 คน และมีสถานที่กางเต้นท์ จำนวน 1 แห่ง พักได้ทั้งหมด 50 - 100 คน และร้านสวัสดิการอุทยานฯ บริการอาหาร เครื่องดื่ม สนใจติดต่อได้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ตู้ปณ.18 อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน 55000 โทร. (054) 779094 หรือติดต่อสอบถามได้ที่งานบริการบ้านพัก ฝ่ายนันทนาการและสื่อความหมาย ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ กรุงเทพฯ โทร.5797223 , 5795734 หรือ โทร.5614292 - 4 ต่อ 724 , 725

ลักษณะภูมิประเทศ :

มีลักษณะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน วางตัวในแนวเหนือใต้ เนื่องจากเป็นปลายเขาผีปันน้ำตะวันออก ทอดตัวลงมาจากประเทศลาว สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 400 - 1,752 เมตร เป็นพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง มีที่ราบเฉพาะบนสันเขา มีแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค คือ น้ำประปาภูเขา และมีอ่างเก็บน้ำบ้านสะเกิน 1 แห่ง

พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า :

สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกินเป็นจำนวนมาก ได้แก่ หมูป่า เก้ง กวาง ลิง และเลียงผา และสัตว์ที่นับว่าเป็นจุดเด่น ได้แก่ ลิง นกนางแอ่น เต่าปูลู นกแว่นสีเทา เก้ง และเลียงผา


จุดเด่นที่น่าสนใจ :

อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน เคยเป็นพื้นที่สู้รบกันระหว่างทหารอเมริกันและลาวแดง มีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่มากมายหลากหลาย เช่น ชาวเขาเผ่าเย้า ม้ง ลาว และลัวะ มีพื้นที่เป็นป่าดงดิบชื้นที่มีสภาพสมบูรณ์ ไม่ถูกรบกวนมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และมีสัตว์ป่าหายาก เช่น เลียงผา นกแว่น และเต่าปูลู ฤดูการท่องเที่ยวจะอยู่ใน ช่วงเดือน กันยายน ถึงเดือน กุมภาพันธ์มีจุดเด่นที่น่าสนใจ ได้แก่ น้ำตกหงษ์เวียงจันทร์ น้ำตกคลองปลากั้ง น้ำตกบ้านยอด ดอยจี๋ ดอยผาช้าง ดอยยาว ถ้ำสะเกิน ถ้ำบ้านยอด ลำน้ำลาว ลำน้ำยวน ลำน้ำงิม บ่อน้ำรอนบ้านน้ำเกาะหลวง จุดชมวิวถ้ำสะเกิน จุดชมวิวสันดอยจี๋ ลานสารวิน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถ ตั้งแคมป์ เดินป่า ปิคนิค ดูนก ส่องสัตว์ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ (รหัสทางไกล 054)

สำนักงานจังหวัดน่าน

710-341

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด

773-047

ททท. สำนักงานภาคเหนือเขต 2 จ.เชียงราย

(053) 717-433 , 744-674-5

สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว

741-619

สถานีตำรวจภูธร อ.เมือง

710-199

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

795-009

ตำรวจท่องเที่ยว

1155

ตำรวจทางหลวง ส.ทล.5 จ.พะเยา

(054) 410-945

ตู้ยามร้องกวาง

(054) 597-304

การบินไทย

710-377

ท่าอากาศยานจังหวัด

710-270

รพ.น่าน

710-138

รพ.ทุ่งช้าง

771-572

รพ.เชียงกลาง

771-573

รพ.ปัว

771-004

รพ.ท่าวังผา

771-575

รพ.แม่จริม

771-571

รพ.สันติสุข

710-179

รพ.บ้านหลวง

771-576

รพ.นาหมื่น

771-577

รพ.นาน้อย

771-570

รพ.เวียงสา

771-568-9

0 ความคิดเห็น: